เลนส์โปรเกรสซีฟมีแบบไหนบ้าง
เลนส์โปรเกรสซีฟมีแบบไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่กันนะ
เชื่อว่าหลายคนไม่น้อยจะมีคำถามว่า เลนส์โปรเกรสซีฟ ทำไมมีราคาถูกแพงแตกต่างกัน บางรุ่นก็มีราคาเพียงหลักพัน ในขณะบางรุ่นกลับมีราคาหลายหมื่น แล้วเราควรเลือกใช้เลนส์โปรเกรสซีฟชนิดไหน แล้วใช้เกณฑ์อะไรประกอบการตัดสินใจ
การเลือกว่าเราจะใช้เลนส์โปรเกรสซีฟชนิดไหนนั้นต้องคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
1.ปริมาณค่าสายตา
เหตุผล
ค่าสายตายิ่งเยอะ มุมมองการใช้งานยิ่งลดลง ยกตัวอย่างเช่น
- ค่าสายตาในตาทั้งสองข้างหากแตกต่างกันมากจะมีผลต่อความสบายในการใช้งานและมีผลต่อการปรับตัว
- ค่าสายตาเอียงที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อมุมมองการมองเห็นที่น้อยลงและการปรับตัวที่ยากขึ้น
- ค่าสายตายาวตามวัยที่มากขึ้น ภาพบิดเบือนในเลนส์จะเพิ่มมากขึ้น มุมมองสำหรับการมองในระยะใกล้ลดลง
การเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมกับค่าสายตาจะทำให้เราสามารถปรับตัวกับเลนส์ได้เร็ว
2.ค่า PD ย่อมาจาก Pupillary Distance หมายถึง ระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง
เหตุผล
คนที่มีค่า PD มากหรือน้อยกว่าปกติ(คนที่มีโครงหน้าใหญ่ดวงตาจะห่างกันหรือคนที่มีโครงหน้าเล็กดวงตาจะชิดกันมากกว่า) จะมีลักษณะการเหลือบตาที่แตกต่างจากคนทั่วไป เลนส์โปรเกรสซีฟบางชนิดไม่ได้ถูกออกแบบมารองรับและคำนึงถึงค่า PD ที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อความสบายในการใช้งานและมุมมองที่ลดลง

การเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่คำนึงถึง PD ของผู้สวมใส่จะทำให้ผู้ใช้งานได้มุมมองการใช้งานที่ดีขึ้น
3.ลักษณะของของกรอบแว่นตา
เหตุผล
กรอบแว่นตาที่เราเลือกใช้ ในขณะสวมใส่บนใบหน้าอาจจะมีตำแหน่งการวางที่ไม่เหมาสม เช่นหน้าแว่นกางมากกว่าปกติเนื่องจากมีโครงหน้าใหญ่ มุมเทหน้าแว่นงุ้มเข้าหาแก้มมากเกินไปเนื่องจากตำแหน่งหูอยู่สูงกว่าดวงตา เป็นต้น ปัจจัยในเรื่องตำแหน่งการวางของแว่นที่ผิดปกติจากมาตรฐาน มีผลทำให้มุมมองที่ได้จากการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟลดลง

การเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่นำข้อมูลตำแหน่งการวางของแว่นตาในขณะสวมใส่ มาใช้คำนวณในการผลิตจะช่วยแก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องภาพบิดเบือนที่เกิดขึ้นเรื่องตำแหน่งการวางของแว่นที่ไม่เหมาะสม และช่วยทำให้เราได้มุมมองในใช้งานที่ดีที่สุด
4.ลักษณะการใช้สายตาจริงในชีวิตประจำวัน
เหตุผล
รูปแบบการใช้สายตาของคนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน บางคนชอบใช้สายตาในการมองในระยะใกล้เป็นหลัก เช่นนักบัญชี บางคนชอบใช้สายตาในการมองในระยะไกล เพราะชอบการขับรถ

การทราบถึงลักษณะการใช้สายตาของแต่ละคนจะช่วยทำให้เราสามารถเลือกโครงสร้างเลนส์ที่มีความหลากหลายได้เหมาะสมที่สุด
ผู้ทำการตรวจวัดสายตาจะพิจารณาจากปัจจัยหลักทั้ง 4 ข้อข้างต้นว่าอยู่ใเกณฑ์ใด เพื่อประกอบการเลือกจ่ายเลนส์โปรเกรสซีฟในระดับที่เหมาสมและสอดคล้องกับการใช้งานนั้นเอง
โดยเลนส์โปรเกรสซีฟสามารถจำแนกออกเป็น 6 ระดับ
1.เลนส์โปรเกรสซีฟกลุ่ม Standard
เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้จะใช้เฉพาะ ค่าสายตาพื้นฐาน มาใช้ในการคำนวณและออกแบบโครงสร้างเลนส์ การวางตำแหน่งจุดโฟกัสสำหรับอ่านหนังสือจะถูกวางตำแหน่งโดยใช้ลักษณะการเหลือบตาสำหรับการมองในระยะใกล้ตามค่าเฉลี่ยทั่วไป เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้รองรับในผู้ที่เพิ่งเริ่มมีค่าสายตายาววัย

เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัยในระยะเริ่มต้น แนะนำไม่เกิน 1.50 D
- ไม่มีสายตาเอียง
- มีค่า PD(ระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง)อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ลักษณะกรอบแว่นมีรูปทรงมาตรฐาน (กรอบแว่นเลนส์ต้องไม่ชิดตาหรือโค้งโอบใบหน้ามากเกินไป)
- ราคาเริ่มต้นที่ 5,700 บาท
เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้จะนำ ค่าสายตาสำหรับสำหรับอ่านหนังสือ(Addition) มาร่วมคำนวณและออกแบบโครงสร้างของเลนส์ ประกอบกับจำนวนแม่พิมพ์ที่ใช้ในการผลิตเลนส์มีตัวเลือกที่มากขึ้น การวางตำแหน่งจุดโฟกัสสำหรับการอ่านหนังสือมีความละเอียดมากขึ้นสามารถรองรับในผู้ที่มีค่าสายตาสูงขึ้นและต้องการความสบายในการใช้งาน

เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัยไม่เกิน 2.00 D
- ผู้ที่มีสายตาเอียงไม่เกิน 1.00 D
- ผู้ที่มีค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันไม่เกิน 1.00 D
- มีค่า PD(ระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง)อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ลักษณะกรอบแว่นมีรูปทรงมาตรฐาน (กรอบแว่นเลนส์ต้องไม่ชิดตาหรือโค้งโอบใบหน้ามากเกินไป)
- ราคาเริ่มต้นที่ 8,700 บาท
เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้นอกเหนือจากการนำค่าสายตาพื้นฐาน และ ค่าสายตาสำหรับอ่านหนังสือ มาใช้ในการออกแบบโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟแล้ว จะมีการนำปัจจัยในส่วนของ ขนาดรูม่านตา มาใช้ในการออกแบบโครงสร้างเลนส์ด้วย รวมถึงปรับปรุงภาพบิดเบือนที่เกิดขึ้นในเลนส์ให้น้อยลงเพื่อให้การมองเห็นมองได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้สำหรับผู้ที่ต้องการมุมมองที่นุ่มนวลปรับตัวได้ง่าย

เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัยเกิน 2.00 D
- ผู้ที่มีสายตาเอียงไม่เกิน 2.00 D
- ผู้ที่มีค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันไม่เกิน 1.00 D
- มีค่า PD(ระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง)อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ลักษณะกรอบแว่นมีรูปทรงมาตรฐาน (กรอบแว่นเลนส์ต้องไม่ชิดตาหรือโค้งโอบใบหน้ามากเกินไป)
- ราคาเริ่มต้นที่ 11,700 บาท
เลนส์ในกลุ่มนี้จะมีจุดเด่นในเรื่องการทำงานร่วมกันในตาทั้งสองข้าง โดยกระบวนการในการออกแบบของเลนส์ในกลุ่มนี้จะมีการคำนึงถึง PD (Pupillary Distance) หรือ ระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง มาใช้คำนวณหาลักษณะการเหลือบตาสำหรับการมองในระยะใกล้ เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้สำหรับ 1.ผู้ที่มีลักษณะดวงตา 2 ข้างอยู่ห่างกันหรือชิดกันมากกว่าปกติซึ่งเกิดในคนที่มีโครงหน้าใหญ่หรือเล็กกว่าคนทั่วไป 2.ผู้ที่มีค่าสายตาสลับซับซ้อน เช่น ค่าสายตาในตาสองข้างมีความแตกต่างกันเกิน 1.00 D หรือในผู้ที่ค่าสายตาเอียงสูง 3.ผู้ที่ต้องการการปรับตัวต่อเลนส์ได้อย่างรวดเร็ว

เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัยเกิน 2.00 D
- ผู้ที่มีสายตาเอียงเกิน 2.00 D
- ผู้ที่มีค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันเกิน 1.00 D
- ผู้ที่มีค่า PD(ระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง) มากกว่า/น้อยกว่าค่ามาตรฐาน (มีโครงหน้าใหญ่หรือเล็กกว่าปกติ)
- ลักษณะกรอบแว่นมีรูปทรงมาตรฐาน (กรอบแว่นเลนส์ต้องไม่ชิดตาหรือโค้งโอบใบหน้ามากเกินไป)
- ราคาเริ่มต้นที่ 18,900 บาท
เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้จะมีการนำ รูปทรงของกรอบแว่นตาในขณะสวมใส่บนใบหน้ามาร่วมคำนวณเพื่อใช้ในการออกแบบโครงสร้างของเลนส์โปรเกรสซีฟ โดยการวัดค่าพารามิเตอร์หลัก 3 ค่าเพื่อหาว่าตำแหน่งการวางของเลนส์ทำมุมอย่างไรกับดวงตาของเราประกอบด้วย 1.มุมเทหน้าแว่น 2.ระยะห่างจากกระจกตาถึงผิวเลนส์ 3.ความโค้งหน้าแว่น เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้สำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสลับซับซ้อน ต้องการการปรับตัวที่รวดเร็ว มุมมองการใช้งานกว้างขวาง รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบกรอบแว่นตาที่มีความแฟชั่น หรือรูปทรงสปอร์ต

เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัยเกิน 2.00 D
- ผู้ที่มีสายตาเอียงเกิน 2.00 D
- ผู้ที่มีค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันเกิน 1.50 D
- ผู้ที่มีค่า PD(ระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง) มากกว่า/น้อยกว่าค่ามาตรฐาน (มีโครงหน้าใหญ่หรือเล็กกว่าปกติ)
- เหมาะสำหรับในกรอบแว่นตาในทุกๆรูปทรง สามารถเลือกกรอบแว่นได้อย่างอิสระ
- ราคาเริ่มต้นที่ 24,700 บาท
เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลที่นำทุกเทคโนโลยีในการผลิตมาใช้ในการออกแบบโครงสร้างของเลนส์ จุดเด่นของเลนส์ในกลุ่มนี้คือ เราสามารถเลือกโครงสร้างของเลนส์ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้สายตาของแต่ละบุคคลได้
แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ
1.เน้นการมองในระยะไกล เหมาะสำหรับผู้เน้นกิจกรรมกลางแจ้ง มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
2.สำหรับการใช้งานในทุกกิจกรรม ไม่ได้เน้นระยะการใช้งานใดเป็นพิเศษ
3.เน้นการมองในระยะกลางและระยะใกล้ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานเอกสารและคอมพิวเตอร์เป็นหลัก
เลนส์โปรเกรสซีฟในกลุ่มนี้สำหรับผู้ที่คุณภาพในการมองเห็นสูงสุด สามารถปรับตัวได้รวดเร็วและตอบโจทย์ลักษณะการใช้สายตามากที่สุด

เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาสายตายาวตามวัยเกิน 2.00 D
- ผู้ที่มีสายตาเอียงเกิน 2.00 D
- ผู้ที่มีค่าสายตาในตาสองข้างแตกต่างกันเกิน 1.50 D
- ผู้ที่มีค่า PD(ระยะห่างของรูม่านตาทั้งสองข้าง) มากกว่า/น้อยกว่าค่ามาตรฐาน (มีโครงหน้าใหญ่หรือเล็กกว่าปกติ)
- เหมาะสำหรับในกรอบแว่นตาในทุกๆรูปทรง สามารถเลือกกรอบแว่นได้อย่างอิสระ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล สามารถเลือกเลนส์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง และสามารถดีไซน์โครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟได้อย่างอิสระ
- ราคาเริ่มต้นที่ 36,100 บาท