เลนส์แว่นตามีกี่ประเภท มีข้อดีข้อเสียยังไง เลือกอย่างไรเวลาไปตัดแว่น

เลนส์แว่นตามีกี่ประเภท มีข้อดีข้อเสียยังไง เลือกอย่างไรเวลาไปตัดแว่น
การเลือกเลนส์แว่นตาที่เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกกรอบแว่นตา เนื่องจากเลนส์แว่นตามีด้วยกันหลากหลายชนิด เลนส์แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงอายุของผู้ใช้งานและวัตถุประสงค์การใช้งานของแต่ละคน ผู้เขียนขอจำแนกเลนส์โดยแบ่งออกเป็น2กลุ่ม
- เลนส์แว่นตาสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
- เลนส์แว่นตาสำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี
เลนส์แว่นตาสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
การเลือกเลนส์แว่นตาในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีความซับซ้อนมากกว่าเนื่องจากเริ่มมีภาวะสายตายาวตามวัยเข้ามารบกวน สาเหตุเกิดจากเลนส์แก้วตาที่อยู่ภายในดวงตาเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นทำให้ประสิทธิภาพในการเพ่งหรือโฟกัสตัวอักษรที่มีขนาดเล็กลดลง ยกตัวอย่างของอาการเช่น มองตัวหนังสือขนาดเล็กในระยะใกล้ไม่ชัด
เลนส์แว่นตาสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปประกอบด้วย

-
เลนส์โปรเกรสซีฟ
เลนส์แว่นตาที่ถูกออกแบบให้มีค่ากำลังสายตามากกว่าหนึ่งค่าสายตาอยู่ภายในชิ้นเลนส์เดียว เรียกได้ว่าเป็นเลนส์อเนกประสงค์สำหรับผู้ที่มีภาวะสายตายาวตามวัยช่วยให้สามารถมองเห็นได้ทุกระยะการใช้งานภายในแว่นตัวเดียว ไม่ต้องทำการถอด-ใส่ หรือสลับแว่นตาระหว่างแว่นมองไกลกับแว่นสำหรับอ่านหนังสือ
ข้อดี
- มองเห็นได้ทุกระยะการใช้งาน ระยะไกล-กลาง-ใกล้
- ตัวเลนส์แว่นดูสวยงาม ไร้รอยต่อที่ผิวเลนส์
- มองเห็นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อเสีย
- ต้องมีการปรับตัวและเรียนรู้ในช่วงแรกของการใช้งาน
- มีราคาสูงเมื่อเทียบกับเลนส์ชนิดอื่น
- การตรวจวัดต้องอาศัยความชำนาญและความแม่นยำของผู้ตรวจวัดสูง

-
เลนส์สองชั้น
เลนส์แว่นตาที่มีค่ากำลังสองค่าสายตาในชิ้นเลนส์เดียวโดยมีรอยต่อของเลนส์ขั้นแบ่งระหว่างโซนมองไกลกับโซนมองใกล้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลนส์ที่ช่วยให้มองไกลและการมองใกล้ได้ภายในเลนส์เดียว
ข้อดี
- มองเห็นได้สองระยะ ทั้งระยะไกล และระยะใกล้
- มุมมองระยะใกล้ค่อนข้างกว้าง
- ราคาไม่สูง
ข้อเสีย
- ต้องมีการปรับตัวจากการเปลี่ยนระยะการมองเพราะมีจังหวะภาพกระโดด
- มีรอยต่อบนผิวเลนส์ทำให้ส่งผลต่อบุคลิกของผู้สวมใส่
- ไม่สามารถมองในระยะกลาง เช่นระยะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้

-
เลนส์เฉพาะทางสำหรับทำงานในออฟฟิศ
เลนส์แว่นตาที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องทำงานและใช้สายตาในการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ งานเอกสารในช่วงโต๊ะ และงานออฟฟิศเป็นเวลานาน ช่วยเพิ่มระยะการมองเห็นครอบคลุมทั่วทั้งโต๊ะทำงาน เน้นให้ความสำคัญการมองเห็นในระยะกลางและระยะใกล้เป็นพิเศษ โดยได้มุมมองในระยะโต๊ะทำงานมากกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟ และได้รับระยะชัดที่ลึกขึ้นมากกว่าเลนส์ชั้นเดียวสำหรับอ่านหนังสือ
ข้อดี
- การมองเห็นในระยะกลางและระยะใกล้กว้าง
- หาโฟกัสในระยะการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ง่ายปรับตัวไม่ยาก มีระยะการทำงานยืดหยุ่น
- ไม่ต้องเชิดหน้าในการมองหน้าจอหรือขยับหน้าเข้าใกล้จอเพื่อให้มองให้ชัด
ข้อเสีย
- นำไปใช้มองในระยะไกลหรือขับรถไม่ได้
- ต้องมีการฝึกมองและปรับตัวในช่วงแรกของใช้งานบ้าง
- มีราคาที่แพงกว่าเลนส์ชั้นเดียว

-
เลนส์ชั้นเดียว
เลนส์ชั้นเดียวคือเลนส์แว่นตาที่มีค่ากำลังสายตาเพียงค่าเดียวในชิ้นเลนส์นั้น เป็นชนิดเลนส์ที่ให้ความคมชัดสูงสุด ในกรณีผู้ใช้งานที่มีอายุมากกว่า 40 ปีเป็นต้นไปหรือเป็นผู้ที่มีสายตายาวตามวัย การเลือกทำแว่นโดยใช้เลนส์ชั้นเดียวจำเป็นต้องเลือกวัตถุประสงค์ของการใช้งานว่าเราต้องการใช้แว่นสำหรับกิจกรรมใด เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ
- เลนส์ชั้นเดียวสำหรับทำแว่นอ่านหนังสือ
- ระยะการใช้งานจะอยู่ในช่วงแขน ระยะวัตถุที่มองห่างจากดวงตา 30-40 เซนติเมตร
- สำหรับการมองโทรศัพท์มือถือ หนังสือ
- เลนส์ชั้นเดียวสำหรับแว่นทำงานคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
- ระยะการใช้งานจะอยู่ในช่วงโต๊ะ ระยะวัตถุที่มองห่างจากดวงตา 50-60 เซนติเมตร
- สำหรับการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
- เลนส์ชั้นเดียวสำหรับทำแว่นไว้ขับรถ
- ระยะการใช้งานจะเป็นการมองไปในระยะไกล ระยะวัตถุที่มองอยู่ห่างจากดวงตาตั้งแต่ 6 เมตรเป็นต้นไป
- สำหรับการขับรถหรือมองวิวทิวทัศน์ในระยะไกล
ข้อดี
- การมองเห็นในระยะใช้งานให้ความคมชัดสูงสุด มุมมองกว้าง
- ปรับตัวง่าย ภาพบิดเบือนต่ำ
- ราคาไม่สูง
ข้อเสีย
- ขาดความยืดหยุ่น มองได้เพียงระยะการใช้งานเพียงระยะเดียว
- ต้องคอยถอด-สลับแว่นเมื่อเปลี่ยนระยะการมอง
- ต้องคอยพกแว่นมากกว่า 1 ตัว
เลนส์แว่นตาสำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี
การเลือกเลนส์แว่นตาสำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี คนในกลุ่มนี้ค่าสายตายังไม่ซับซ้อนมาก เนื่องจากดวงตายังมีกำลังและความสามารถในการเพ่งหรือโฟกัสตัวอักษรขนาดเล็กได้
เลนส์แว่นตาสำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปีประกอบด้วย

-
เลนส์ชั้นเดียว
เลนส์แว่นตาที่มีค่ากำลังสายตาเพียงค่าเดียวอยู่ภายในชิ้นเลนส์นั้นโดยวางจุดโฟกัสไว้บริเวณจุดกึ่งกลางของเลนส์ เป็นเลนส์พื้นฐานสำหรับผู้ที่ต้องการตัดแว่น
ข้อดี
- ปรับตัวได้ง่าย ภาพบิดเบือนน้อยกว่าเลนส์ชนิดอื่น
- ให้ภาพที่คมชัดสูงสุด มุมมองกว้าง
- ราคาเริ่มต้นไม่แพง
ข้อเสีย
- ถ้าไม่ใช่ลักษณะการขัดเลนส์แบบพิเศษ ไม่สามารถใส่ฟังก์ชั่นลดอาการเพ่งหรือช่วยชะลอสายตาสั้นในวัยเด็กได้

-
เลนส์ลดอาการตาล้า
เลนส์แว่นตาที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ที่ต้องทำงานอยู่กับหน้าจออุปกรณ์ดิจิตอลเป็นระยะเวลานาน เลนส์ลดอาการตาล้าต้องใช้ลักษณะการผลิตเลนส์แบบพิเศษโดยใช้เทคโนโลยีฟรีฟอร์ม เพื่อใส่กำลังขยายอ่อนๆลงไปในเลนส์เพื่อให้ผู้ใช้งานมองหน้าจอในระยะใกล้ได้สบายมากยิ่งขึ้น
ข้อดี
- มองหน้าจออุปกรณ์ดิจิตอลได้สบายตามากยิ่งขึ้น
- ช่วยลดอาการตาล้า อาการปวดหัวจากการเพ่งหน้าจอนานๆ
- เป็นเลนส์อเนกประสงค์ มองได้ทุกระยะการทำงานจบในแว่นอันเดียว
ข้อเสีย
- จำเป็นต้องมีการปรับตัวในระยะแรก
- ต้องเรียนรู้ตำแหน่งการมองในระยะแรก
- อาจรู้สึกถึงภาพบิดเบือนของเลนส์

-
เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก
เลนส์แว่นตาที่ถูกออกแบบมาเพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้นที่มักจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเด็กในช่วงอายุ 7-12 ปี เลนส์แว่นตาชะลอสายตาสั้นมีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อควบคุมไม่ให้เด็กมีสายตาสั้นที่มากเกินไป เนื่องจากสายตาสั้นในปริมาณมากเป็นสาเหตุสำคัญให้เกิดโรคตาที่ร้ายแรงได้ในอนาคต
ข้อดี
- ช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้นไม่ให้มีปริมาณสายตาสั้นมากเกินไป
- ลดอัตราการเกิดโรคตาจากสายตาสั้นในปริมาณมาก
- ตัวเลนส์ทำจากวัสดุเลนส์นิรภัย
ฟังก์ชั่นเสริมในเลนส์แว่นตา

ฟังก์ชั่นเสริมเพิ่มเติมที่สามารถใส่ลงไปในเลนส์แว่นตาเพื่อเพิ่มศักยภาพของเลนส์แว่นตาในการปกป้องดวงตาของผู้สวมใส่
1.ป้องกันแสงสีฟ้า
- ปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าที่ปล่อยมาจากหน้าจออุปกรณ์ดิจิตอลมีผลต่อสุขภาพดวงตาในระยะยาว
- ลดอาการตาล้า แสบตา ระคายตา
- ลดอาการนอนไม่หลับ เนื่องจากแสงสีฟ้าไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ
เลนส์ป้องกันแสงสีฟ้าเหมาะสำหรับ
ผู้ที่ต้องใช้สายตากับอุปกรณ์ดิจิตอลเป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน
2.ย่อเลนส์ให้บาง
- ช่วยให้เลนส์มีความบางมากขึ้น
- ช่วยให้เลนส์แว่นตามีน้ำหนักที่เบาลง
- ช่วยให้เลนส์ดูบางและสวยงามเมื่อประกอบเข้ากับกรอบแว่นตา
เลนส์ย่อบางเหมาะสำหรับ
ผู้ที่มีปริมาณสายตาสั้นหรือยาวในปริมาณมาก
3.ย้อมสีเลนส์
- ปกป้องดวงตาจากรังสียูวีอันเป็นสาเหตุของโรคตา
- ช่วยกรองและลดปริมาณแสงจ้าจากแสงแดด ลดอาการระคายเคืองตา
- เพิ่มคอนทราสต์ของสี ให้มองได้ชัดเจน
- ช่วยเสริมความสวยงามของเลนส์ให้ดูมีสีสัน ไม่จำเจ
เลนส์ย้อมสีเหมาะสำหรับ
ผู้ที่มีอาการดวงตาสู้แสงไม่ไหว และผู้ที่ต้องการให้แว่นดูมีสีสันสวยงามตามเทรนด์สายแฟชั่น ผู้ที่มีความบกพร่องในการเห็นสีบางเฉดสี
4.เปลี่ยนสีอัตโนมัติ
- เปลี่ยนสีเลนส์จากใสให้เข้มเหมือนเลนส์กันแดดอัตโนมัติเมื่อออกกลางแจ้ง
- ปกป้องดวงตาจากรังสียูวี แสงสีฟ้าจากอุปกรณ์ดิจิตอล และแสงจ้าจากแดดเมื่อออกลางแจ้งได้ภายในแว่นเดียว
- เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานเนื่องจากสามารถแก้ไขค่าสายตาและปกป้องดวงตาไปได้ในขณะเดียวกัน
เลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติเหมาะสำหรับ
ผู้ที่ต้องการการปกป้องดวงตาอย่างเต็มรูปแบบและต้องการความสะดวกสบายในการใช้แว่นตา รวมถึงผู้ที่มีปัญหาแพ้แสงจ้าจากแดด
5.ลดแสงฟุ้งกระเจิงเวลากลางคืน
- ช่วยลดแสงฟุ้งกระเจิงจากไฟหน้ารถ
- เพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นในช่วงเวลากลางคืน
เลนส์ลดแสงฟุ้งกระเจิงเวลากลางคืน เหมาะสำหรับ
ผู้ที่ต้องขับรถในช่วงเวลากลางคืนอยู่เป็นประจำแล้วมีปัญหารบกวนจากการเจอแสงกระเจิงจากไฟหน้ารถและแสงจากไฟข้างทาง
6.เสริมป้องกันรอยขีดข่วน
- ลดการเกิดรอยขีดข่วนที่ผิวเลนส์
- ยืดอายุการใช้งานของเลนส์ให้นานมากขึ้น
เลนส์แว่นตาเสริมป้องกันรอยขีดข่วนของเลนส์ เหมาะสำหรับ
ผู้ที่มีลักษณะการใช้แว่นถอด-ใส่เข้าออกอยู่เป็นประจำซึ่งมีโอกาสที่ผิวเลนส์จะตกกระทบพื้นขณะถอดวางแว่นอยู่บ่อยๆ ผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นผง ฝุ่นทราย ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดรอยของเลนส์แว่นตา ผู้ที่ต้องการยืดอายุการใช้งานของแว่นตาคู่นั้นให้นานมากขึ้น
7.เสริมเลนส์นิรภัย
- เลนส์แข็งแรง ไม่แตก
- ป้องกันและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นต่อดวงตา
เลนส์แว่นตานิรภัย เหมาะสำหรับ
เด็กเล็กที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุที่ดวงตาจากกิจกรรมต่างๆ ผู้ที่ทำงานในสถานที่ดวงตาจะได้รับเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในขณะทำงาน เช่นผู้ที่ทำงานในไซด์ก่อสร้าง ผู้ที่เหลือดวงตาที่สามารถใช้งานได้อยู่เพียงข้างเดียว