เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก Essilor Stellest

เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก Essilor Stellest

Regular price 13,500.00 ฿ Sale price10,800.00 ฿ ประหยัดไป 20%
/

เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก Essilor Stellest 

essilor stellest

ช่วงค่าสายตาที่ผลิตได้

Airwear (Index 1.59 Polycarbonate)

รองรับค่าสายตาสั้นไม่เกอน -10.00 D /สายตาเอียงไม่เกิน -4.00 D

เหมาะสำหรับเด็กทุกคน เพราะไม่เพียงช่วยแก้ไขค่าสายตาแต่ยังช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของค่าสายตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีหลักในเลนส์แว่นตา Essilor Stellest

เลนส์แว่นตา Essilor Stellest มีกลไกการทำงานแบ่งเป็น 2 ส่วน

  1. การแก้ไขค่าสายตา

เลนส์ที่ผู้สวมใส่ได้รับการสั่งตัดให้การมองเห็นที่คมชัดด้วยการรวมแสงบนจอตาอย่างสมบูรณ์แบบการออกแบบเลนส์ที่มอบการมองเห็นขนาดใหญ่ซึ่งช่วยรับประกัน ความสามารถในการมองเห็นที่ดีและสบายตา สำหรับผู้สวมใส่เลนส์ชั้นเดียว

  1. การควบคุม

เทคโนโลยี H.A.L.T. (Highly Aspherical Lenslet Target)

กลุ่มเลนส์ขนาดเล็ก 1,021 เลนส์ที่กระจายทั่ววงแหวน 11 วง ออกแบบมาเพื่อสร้างปริมาตรของสัญญาณแสงที่ช่วยชะลอไม่ให้กระบอกตายาวขึ้นในเด็กที่ดวงตายังคงพัฒนาเติบโต ปริมาตรของสัญญาณนี้ช่วยควบคุมกระบวนการเพิ่มความยาวของกระบอกตา

(ลำแสงที่ส่องผ่านกลุ่มเลนส์ขนาดเล็กสร้างปริมตรของสัญญาณแสงที่ไม่มีจุดรวมแสงที่ด้านหน้าจอประสาทตาและเคลื่อนไหวไปตามรูปทรงของจอตา สัญญาณนี้ช่วยชะลอไม่ให้กระบอกตายาวขึ้น)

เลนส์แว่นตา Stellest ใช้วัสดุ Airwear

เด็กรู้สึกปลอดภัยด้วยเลนส์ Airwear เพราะใส่สบายให้การปกป้องเป็นวัสดุเลนส์ที่ทนทานต่อแรงกระแทกมากที่สุด เข้ากับวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยกิจกรรมของเด็ก

ผลการวิจัยทางคลินิกเป็นเวลา 2 ปี แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเลนส์แว่นตา Essilor Stellest

  • การวิจัยทางคลินิกแบบสุ่มที่มีการควบคุมและปกปิดข้อมูลทั้ง 2 ทาง

  • ระยะเวลา 2 ปี

  • กลุ่มตัวอย่าง 50 คนสวมใส่เลนส์แว่นตาชั้นเดียว และ 54 คนสวมใส่เลนส์แว่นตา Stellest

 

ประสิทธิภาพของเลนส์แว่นตา Stellest ในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้น

  • กว่า 2 ใน 3 ของเด็กที่สวมใส่เลนส์แว่นตา Stellest มีค่าสายตาที่เพิ่มขึ้นคงที่หลังสวมใส่ตลอดระยะปีแรก

  • หลังจากปีแรก การเติบโตของลูกตาของเด็ก 9 ใน 10 คนที่สวมใส่เลนส์แว่นตา Stellest ใกล้เคียงหรือช้ากว่าเด็กที่ไม่มีค่าสายตาสั้น

ประโยชน์เพิ่มเติม

  • ให้การมองเห็นที่ชัดเจนเหมือนสวมใส่เลนส์แว่นตาชั้นเดียว

  • 90% ของเด็ก ปรับตัวได้ภายใน 3 วันและ 100% ภายใน 1 สัปดาห์

  • 94% ของเด็กรู้สึกสบายตากับเลนส์แว่นตา Stellest

 

1.50 1.60 1.67 1.74 …ตัวเลขกำกับเหล่านี้ที่เราเห็นกันในขณะเลือกชมสินค้าประเภทเลนส์แว่นตา เราเรียกว่า Refractive Index ของเลนส์ หรือถ้าให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนกับ “วัสดุ” ที่นำมาใช้ในการผลิตเลนส์

แรกเริ่มเดิมที วัสดุหรือน้ำยาสารตั้งต้น เหล่านี้เป็นของเหลว ก่อนที่จะถูกหลอมขึ้นเป็นชิ้นเลนส์ แต่ก็มีวัสดุบางชนิดที่สารตั้งต้นเป็นของแข็ง เช่น Polycarbonate ซึ่งเป็นวัสดุสำหรับทำเลนส์นิรภัย

น้ำยาหรือวัสดุที่นำมาใช้ก่อนหลอมเป็นเลนส์มีด้วยกันอยู่หลายชนิดได้แก่ 

CR39 , MR8 , MR7 , MR174 หรืออาจจะมีชื่ออื่นๆแล้วแต่บริษัทที่คิดค้นน้ำยาขึ้น

แต่ละวัสดุเมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นเลนส์จะมีคุณสมบัติของเลนส์ที่ต่างกันในแง่กำลังการหักเหแสง และความหนาบางของเลนส์ที่ได้

วัสดุ CR39 เมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นชิ้นเลนส์จะมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.5 หรือเป็นค่ามาตรฐาน

ในขณะที่ วัสดุ MR174 เมื่อถูกหล่อขึ้นเป็นชิ้นเลนส์จะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.74 ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่า

Credit Picture https://www.optometrists.org/general-practice-optometry/optical/guide-to-optical-lenses/guide-to-high-index-lenses/

เลนส์ที่มีกำลังการหักเหแสงที่มากกว่าจะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีความหนาเลนส์ที่น้อยกว่าหรือบางมากขึ้น

  1. วัสดุ CR39 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.50 ความหนาของเลนส์อยู่ในระดับมาตรฐาน
  2. วัสดุ MR8 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.60 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
  3. วัสดุ MR7 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.67 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
  4. วัสดุ MR174 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.74 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50

สรุปและทำความเข้าใจง่ายๆได้ว่ายิ่ง ดัชนีหักเหแสงยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เลนส์ที่ได้จะมีความบางและเบามากขึ้น

Tips

  • เลนส์ที่มีค่า Index 1.50 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่มาก รวมถึงผู้ที่เลือกใช้กรอบประเภทกรอบเต็ม
  • เรามักเรียกเลนส์ที่มีค่า Refractive index สูงว่า เลนส์ย่อบาง เลนส์ย่อบางเหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตามากๆ เพื่อให้เวลาที่นำเลนส์เข้ากรอบแล้วตัวเลนส์ไม่ล้นออกนอกกรอบแว่นตา และช่วยทำให้ตัวแว่นนั้นมีน้ำหนักไม่หนักจนเกินไป
  • การเลือกกรอบแว่นตาก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก Index ของเลนส์เช่นกันโดยเฉพาะผู้ที่ใช้กรอบแว่นตาชนิดไร้กรอบ หรือ กรอบเซาะร่อง อาจจะต้องพิจารณาใช้วัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปเนื่องจากตัวเลนส์จะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าวัสดุเลนส์ Index 1.50 การเลือกวัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปจะลดความเสี่ยงในการเกิดการกระเทาะแตกของเลนส์ได้

Recently viewed