เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก Essilor Stellest
เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก Essilor Stellest
ช่วงค่าสายตาที่ผลิตได้
Airwear (Index 1.59 Polycarbonate)
รองรับค่าสายตาสั้นไม่เกอน -10.00 D /สายตาเอียงไม่เกิน -4.00 D
เหมาะสำหรับเด็กทุกคน เพราะไม่เพียงช่วยแก้ไขค่าสายตาแต่ยังช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของค่าสายตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีหลักในเลนส์แว่นตา Essilor Stellest
เลนส์แว่นตา Essilor Stellest มีกลไกการทำงานแบ่งเป็น 2 ส่วน
-
การแก้ไขค่าสายตา
เลนส์ที่ผู้สวมใส่ได้รับการสั่งตัดให้การมองเห็นที่คมชัดด้วยการรวมแสงบนจอตาอย่างสมบูรณ์แบบการออกแบบเลนส์ที่มอบการมองเห็นขนาดใหญ่ซึ่งช่วยรับประกัน ความสามารถในการมองเห็นที่ดีและสบายตา สำหรับผู้สวมใส่เลนส์ชั้นเดียว
-
การควบคุม
เทคโนโลยี H.A.L.T. (Highly Aspherical Lenslet Target)
กลุ่มเลนส์ขนาดเล็ก 1,021 เลนส์ที่กระจายทั่ววงแหวน 11 วง ออกแบบมาเพื่อสร้างปริมาตรของสัญญาณแสงที่ช่วยชะลอไม่ให้กระบอกตายาวขึ้นในเด็กที่ดวงตายังคงพัฒนาเติบโต ปริมาตรของสัญญาณนี้ช่วยควบคุมกระบวนการเพิ่มความยาวของกระบอกตา
(ลำแสงที่ส่องผ่านกลุ่มเลนส์ขนาดเล็กสร้างปริมตรของสัญญาณแสงที่ไม่มีจุดรวมแสงที่ด้านหน้าจอประสาทตาและเคลื่อนไหวไปตามรูปทรงของจอตา สัญญาณนี้ช่วยชะลอไม่ให้กระบอกตายาวขึ้น)
เลนส์แว่นตา Stellest ใช้วัสดุ Airwear
เด็กรู้สึกปลอดภัยด้วยเลนส์ Airwear เพราะใส่สบายให้การปกป้องเป็นวัสดุเลนส์ที่ทนทานต่อแรงกระแทกมากที่สุด เข้ากับวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยกิจกรรมของเด็ก
ผลการวิจัยทางคลินิกเป็นเวลา 2 ปี แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเลนส์แว่นตา Essilor Stellest
-
การวิจัยทางคลินิกแบบสุ่มที่มีการควบคุมและปกปิดข้อมูลทั้ง 2 ทาง
-
ระยะเวลา 2 ปี
-
กลุ่มตัวอย่าง 50 คนสวมใส่เลนส์แว่นตาชั้นเดียว และ 54 คนสวมใส่เลนส์แว่นตา Stellest
ประสิทธิภาพของเลนส์แว่นตา Stellest ในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้น
-
กว่า 2 ใน 3 ของเด็กที่สวมใส่เลนส์แว่นตา Stellest มีค่าสายตาที่เพิ่มขึ้นคงที่หลังสวมใส่ตลอดระยะปีแรก
-
หลังจากปีแรก การเติบโตของลูกตาของเด็ก 9 ใน 10 คนที่สวมใส่เลนส์แว่นตา Stellest ใกล้เคียงหรือช้ากว่าเด็กที่ไม่มีค่าสายตาสั้น
ประโยชน์เพิ่มเติม
-
ให้การมองเห็นที่ชัดเจนเหมือนสวมใส่เลนส์แว่นตาชั้นเดียว
-
90% ของเด็ก ปรับตัวได้ภายใน 3 วันและ 100% ภายใน 1 สัปดาห์
-
94% ของเด็กรู้สึกสบายตากับเลนส์แว่นตา Stellest
1.50 1.60 1.67 1.74 …ตัวเลขกำกับเหล่านี้ที่เราเห็นกันในขณะเลือกชมสินค้าประเภทเลนส์แว่นตา เราเรียกว่า Refractive Index ของเลนส์ หรือถ้าให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนกับ “วัสดุ” ที่นำมาใช้ในการผลิตเลนส์
แรกเริ่มเดิมที วัสดุหรือน้ำยาสารตั้งต้น เหล่านี้เป็นของเหลว ก่อนที่จะถูกหลอมขึ้นเป็นชิ้นเลนส์ แต่ก็มีวัสดุบางชนิดที่สารตั้งต้นเป็นของแข็ง เช่น Polycarbonate ซึ่งเป็นวัสดุสำหรับทำเลนส์นิรภัยน้ำยาหรือวัสดุที่นำมาใช้ก่อนหลอมเป็นเลนส์มีด้วยกันอยู่หลายชนิดได้แก่
CR39 , MR8 , MR7 , MR174 หรืออาจจะมีชื่ออื่นๆแล้วแต่บริษัทที่คิดค้นน้ำยาขึ้น
แต่ละวัสดุเมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นเลนส์จะมีคุณสมบัติของเลนส์ที่ต่างกันในแง่กำลังการหักเหแสง และความหนาบางของเลนส์ที่ได้
วัสดุ CR39 เมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นชิ้นเลนส์จะมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.5 หรือเป็นค่ามาตรฐาน
ในขณะที่ วัสดุ MR174 เมื่อถูกหล่อขึ้นเป็นชิ้นเลนส์จะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.74 ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่า
Credit Picture https://www.optometrists.org/general-practice-optometry/optical/guide-to-optical-lenses/guide-to-high-index-lenses/
เลนส์ที่มีกำลังการหักเหแสงที่มากกว่าจะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีความหนาเลนส์ที่น้อยกว่าหรือบางมากขึ้น
- วัสดุ CR39 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.50 ความหนาของเลนส์อยู่ในระดับมาตรฐาน
- วัสดุ MR8 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.60 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
- วัสดุ MR7 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.67 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
- วัสดุ MR174 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.74 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
สรุปและทำความเข้าใจง่ายๆได้ว่ายิ่ง ดัชนีหักเหแสงยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เลนส์ที่ได้จะมีความบางและเบามากขึ้น
Tips
- เลนส์ที่มีค่า Index 1.50 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่มาก รวมถึงผู้ที่เลือกใช้กรอบประเภทกรอบเต็ม
- เรามักเรียกเลนส์ที่มีค่า Refractive index สูงว่า เลนส์ย่อบาง เลนส์ย่อบางเหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตามากๆ เพื่อให้เวลาที่นำเลนส์เข้ากรอบแล้วตัวเลนส์ไม่ล้นออกนอกกรอบแว่นตา และช่วยทำให้ตัวแว่นนั้นมีน้ำหนักไม่หนักจนเกินไป
- การเลือกกรอบแว่นตาก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก Index ของเลนส์เช่นกันโดยเฉพาะผู้ที่ใช้กรอบแว่นตาชนิดไร้กรอบ หรือ กรอบเซาะร่อง อาจจะต้องพิจารณาใช้วัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปเนื่องจากตัวเลนส์จะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าวัสดุเลนส์ Index 1.50 การเลือกวัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปจะลดความเสี่ยงในการเกิดการกระเทาะแตกของเลนส์ได้