เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก Hoya Miyosmart

เลนส์ชะลอสายตาสั้นในเด็ก Hoya Miyosmart

Regular price12,900.00 ฿
/

เลนส์ชะลอสายตาสั้น hoya miyosmart
เลนส์ชะลอสายตาสั้น miyosmart
Hoya Miyosmart

การเพิ่มขึ้นของปริมาณสายตาสั้นไม่ได้เพียงแต่ส่งผลกระทบการมองเห็นไม่ชัดเท่านั้น แต่เรากังวลถึงผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นซึ่งเกิดจากการขยายขนาดของดวงตาในเด็ก และนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคตาในอนาคต

โดยจากผลการศึกษาพบว่าการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้น เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคตามากมายไม่ว่าจะเป็น ต้อกระจก ต้อหิน จอประสาทตาหลุดลอก หรือภาวะจอประเสื่อมที่เกิดจากภาวะสายตาสั้นได้ (myopic macular degeneration)

โดยจากในตารางภาพเปรียบเทียบว่า
ในบุคคลที่มีภาวะสายตาสั้นมาก -7.00 D 
มีความเสี่ยงในเกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อม(Myopic Maculopathy) มากกว่าคนที่มีสายตาปกติถึง 127 เท่า
มีความเสี่ยงในการเกิดจอประสาทตาหลุดลอก(Retinal Detachment) มากกว่าคนที่มีสายตาปกปกติถึง 44 เท่า


จากผลการศึกษาพบว่าปัจจัยที่มีผลต่อการกระตุ้นการเพิ่มขึ้นของภาวะสายตาสั้น เกิดจากสิ่งที่เรียกว่า Peripheral Hyperopic Defocus ซึ่งเป็นแสงที่เข้าสู่ดวงตาผ่านบริเวณขอบโดยรอบจุดศูนย์กลางของเลนส์ และไปโฟกัสบริเวณหลังจอรับภาพ สิ่งเหล่านี้ไปกระตุ้นการขยายตัวของกระบอกตาให้มีลักษณะที่ยืดยาวออกไป ทำให้เกิดเป็นภาวะสายตาสั้นที่เพิ่มมากขึ้น

ด้วยเทคโนโลยี D.I.M.S. ที่มีความพิเศษและไม่มีการใส่วัตถุเข้าไปในร่างกายนี้ เลนส์จะแก้ไขข้อบกพร่องทางสายตาบนทั่วทั้งพื้นผิวเลนส์และมีพื้นที่รักษารูปแหวนเพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของภาวะสายตาสั้น การสลับระหว่างพื้นที่โฟกัสและพื้นที่ปรับโพกัสจะช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจน พร้อมทั้งจัดการภาวะสายตาสั้นไปพร้อมกันได้
เทคโนโลยี D.I.M.S. ที่มีการออกแบบเลนส์โดยแบ่งพื้นที่การมองเห็นออกเป็น 2 โซน 
1. Clear Zone ซึ่งเป็นบริเวณจุดกึ่งกลางของเลนส์เพื่อให้เด็กใช้ในการมองเห็น
2. Treatment Zone เป็นส่วนที่มีเทคโนโลยี  D.I.M.S. ฝังอยู่มีส่วนช่วยในการควบคุมแสงที่มาจากบริเวณขอบเลนส์ไม่ให้แสงไปตกบริเวณหลังจอรับภาพซึ่งเป็นสาเหตุที่ไปกระตุ้นการขยายตัวของกระบอกตา

เทคโนโลยี Defocus Incorporated Multiple Segments (D.I.M.S.) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการออกแบบโดยการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสารพัดช่างของฮ่องกงในปี 2014 ทำให้ตัวเลนส์ MiYOSMART สามารถปรับตัวได้ง่ายมากขึ้น เช่นเดียวกับเลนส์ชั้นเดียวทั่วไป และสามารถใช้ได้ในกรอบแว่นที่มีความหลากหลายได้

ในปี 2018 เลนส์ MiYOSMART ได้รับรางวัล Gold Prize รางวัล Grand Award และรางวัล Special Gold Award ในงาน International Exhibition of Inventions of Geneva สมาพันธรัฐสวิสเซอร์แลนด์
ในปี 2020 เลนส์นี้ชนะรางวัล Silmo d’Or ในประเภท Vision ที่งานแสดง Silmo Paris Optical Fair

1.50 1.60 1.67 1.74 …ตัวเลขกำกับเหล่านี้ที่เราเห็นกันในขณะเลือกชมสินค้าประเภทเลนส์แว่นตา เราเรียกว่า Refractive Index ของเลนส์ หรือถ้าให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนกับ “วัสดุ” ที่นำมาใช้ในการผลิตเลนส์

แรกเริ่มเดิมที วัสดุหรือน้ำยาสารตั้งต้น เหล่านี้เป็นของเหลว ก่อนที่จะถูกหลอมขึ้นเป็นชิ้นเลนส์ แต่ก็มีวัสดุบางชนิดที่สารตั้งต้นเป็นของแข็ง เช่น Polycarbonate ซึ่งเป็นวัสดุสำหรับทำเลนส์นิรภัย

น้ำยาหรือวัสดุที่นำมาใช้ก่อนหลอมเป็นเลนส์มีด้วยกันอยู่หลายชนิดได้แก่ 

CR39 , MR8 , MR7 , MR174 หรืออาจจะมีชื่ออื่นๆแล้วแต่บริษัทที่คิดค้นน้ำยาขึ้น

แต่ละวัสดุเมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นเลนส์จะมีคุณสมบัติของเลนส์ที่ต่างกันในแง่กำลังการหักเหแสง และความหนาบางของเลนส์ที่ได้

วัสดุ CR39 เมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นชิ้นเลนส์จะมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.5 หรือเป็นค่ามาตรฐาน

ในขณะที่ วัสดุ MR174 เมื่อถูกหล่อขึ้นเป็นชิ้นเลนส์จะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.74 ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่า

Credit Picture https://www.optometrists.org/general-practice-optometry/optical/guide-to-optical-lenses/guide-to-high-index-lenses/

เลนส์ที่มีกำลังการหักเหแสงที่มากกว่าจะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีความหนาเลนส์ที่น้อยกว่าหรือบางมากขึ้น

  1. วัสดุ CR39 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.50 ความหนาของเลนส์อยู่ในระดับมาตรฐาน
  2. วัสดุ MR8 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.60 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
  3. วัสดุ MR7 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.67 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
  4. วัสดุ MR174 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.74 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50

สรุปและทำความเข้าใจง่ายๆได้ว่ายิ่ง ดัชนีหักเหแสงยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เลนส์ที่ได้จะมีความบางและเบามากขึ้น

Tips

  • เลนส์ที่มีค่า Index 1.50 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่มาก รวมถึงผู้ที่เลือกใช้กรอบประเภทกรอบเต็ม
  • เรามักเรียกเลนส์ที่มีค่า Refractive index สูงว่า เลนส์ย่อบาง เลนส์ย่อบางเหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตามากๆ เพื่อให้เวลาที่นำเลนส์เข้ากรอบแล้วตัวเลนส์ไม่ล้นออกนอกกรอบแว่นตา และช่วยทำให้ตัวแว่นนั้นมีน้ำหนักไม่หนักจนเกินไป
  • การเลือกกรอบแว่นตาก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก Index ของเลนส์เช่นกันโดยเฉพาะผู้ที่ใช้กรอบแว่นตาชนิดไร้กรอบ หรือ กรอบเซาะร่อง อาจจะต้องพิจารณาใช้วัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปเนื่องจากตัวเลนส์จะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าวัสดุเลนส์ Index 1.50 การเลือกวัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปจะลดความเสี่ยงในการเกิดการกระเทาะแตกของเลนส์ได้

Recently viewed