เลนส์ชั้นเดียว Hoya Hilux VG UV (stock)
เลนส์ชั้นเดียว Hoya Nulux VG UV
1.เทคโนโลยี Hi-Vision Longlife การเคลือบผิวเลนส์มัลติโค้ท VG จาก Hoya ที่มาพร้อมกับ 5 ฟังก์ชั่น
- ป้องกันแสงสะท้อน : ที่อาจก่อให้เกิดความรำคาญและทำให้ดวงตาเมื่อยล้า ซึ่งการเคลือบนี้จะขจัดแสงสะท้อน รวมถึงมอบความผ่อนคลายแก่ดวงตาและการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ
- ทนต่อรอยขีดข่วน : เพราะรอยขีดข่วนนั้นเกิดขึ้นได้ง่าย สารเคลือบที่แข็งมากนี้จะช่วยลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วนให้เหลือน้อยที่สุด
- เลนส์กันฝุ่น : ด้วยพื้นผิวเลนส์ที่เรียบเนียนอย่างมากและคุณสมบัติทำความสะอาดง่าย ทำให้ง่ายต่อการเช็ดคราบมันและฝุ่นออกจากเลนส์ แม้จะใช้มาเป็นเวลานานและเช็ดคราบแล้วหลายครั้ง
- ป้องกันไฟฟ้าสถิต : ป้องกันการเกาะของฝุ่นบนผิวเลนส์ ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนในทุกสถานการณ์
- กันน้ำ : ช่วยให้แน่ใจว่าหยดน้ำจะเกาะพื้นผิวเลนส์น้อยที่สุด วางใจได้ว่าจะมองเห็นชัดเจนแม้ฝนตกหรือเกิดการควบแน่น
ด้วยประสิทธิภาพและการปกป้องการเคลือบผิวเลนส์กันสะท้อนที่คงทนที่สุดของเรา ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็น การเคลือบผิวสะท้อนที่ทนทานที่สุด สัมผัสกับการมองเห็นที่ชัดเจนและสบายตาเป็นพิเศษ พร้อมวางใจได้ว่ารูปลักษณ์และการใช้งานของเลนส์จะคงอยู่อย่างยาวนาน
2.เทคโนโลยี Hi-VisionLongLife UV Control
ปกป้องดวงตาจากอันตรายของรังสี UV
คุณอาจทราบดีถึงความเสียหายที่เกิดจากการได้รับรังสี UV โดยตรง แต่น้อยคนที่จะทราบถึงอันตรายจากการได้รับรังสีทางอ้อมและจากแสงสะท้อนปกป้องดวงตาของคุณด้วย UV Control ซึ่งเป็นการเคลือบที่ด้านหลังของเลนส์แว่นตา การเคลือบนี้จะช่วยยับยั้งไม่ให้รังสี UV สะท้อนเข้าสู่ดวงตาของพวกเขาและเมื่อใช้ควบคู่กับวัสดุเลนส์ที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV จากทางด้านหน้าแล้ว UV Control จะปกป้องคุณจากรังสี UV ซึ่งเป็นอันตรายได้ถึง 100%
1.50 1.60 1.67 1.74 …ตัวเลขกำกับเหล่านี้ที่เราเห็นกันในขณะเลือกชมสินค้าประเภทเลนส์แว่นตา เราเรียกว่า Refractive Index ของเลนส์ หรือถ้าให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ก็เปรียบเสมือนกับ “วัสดุ” ที่นำมาใช้ในการผลิตเลนส์
แรกเริ่มเดิมที วัสดุหรือน้ำยาสารตั้งต้น เหล่านี้เป็นของเหลว ก่อนที่จะถูกหลอมขึ้นเป็นชิ้นเลนส์ แต่ก็มีวัสดุบางชนิดที่สารตั้งต้นเป็นของแข็ง เช่น Polycarbonate ซึ่งเป็นวัสดุสำหรับทำเลนส์นิรภัยน้ำยาหรือวัสดุที่นำมาใช้ก่อนหลอมเป็นเลนส์มีด้วยกันอยู่หลายชนิดได้แก่
CR39 , MR8 , MR7 , MR174 หรืออาจจะมีชื่ออื่นๆแล้วแต่บริษัทที่คิดค้นน้ำยาขึ้น
แต่ละวัสดุเมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นเลนส์จะมีคุณสมบัติของเลนส์ที่ต่างกันในแง่กำลังการหักเหแสง และความหนาบางของเลนส์ที่ได้
วัสดุ CR39 เมื่อถูกหล่อขึ้นมาเป็นชิ้นเลนส์จะมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.5 หรือเป็นค่ามาตรฐาน
ในขณะที่ วัสดุ MR174 เมื่อถูกหล่อขึ้นเป็นชิ้นเลนส์จะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีค่ากำลังการหักเหแสงที่ 1.74 ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่า
Credit Picture https://www.optometrists.org/general-practice-optometry/optical/guide-to-optical-lenses/guide-to-high-index-lenses/
เลนส์ที่มีกำลังการหักเหแสงที่มากกว่าจะทำให้เลนส์ชิ้นนั้นมีความหนาเลนส์ที่น้อยกว่าหรือบางมากขึ้น
- วัสดุ CR39 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.50 ความหนาของเลนส์อยู่ในระดับมาตรฐาน
- วัสดุ MR8 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.60 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
- วัสดุ MR7 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.67 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
- วัสดุ MR174 เมื่อขึ้นรูปเป็นชิ้นเลนส์แล้วจะทำให้เลนส์มีดัชนีหักเหแสง Index 1.74 ความหนาของเลนส์จะมีความบางมากขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเลนส์ที่ดัชนีหักเหแสง index 1.50
สรุปและทำความเข้าใจง่ายๆได้ว่ายิ่ง ดัชนีหักเหแสงยิ่งมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เลนส์ที่ได้จะมีความบางและเบามากขึ้น
Tips
- เลนส์ที่มีค่า Index 1.50 เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาไม่มาก รวมถึงผู้ที่เลือกใช้กรอบประเภทกรอบเต็ม
- เรามักเรียกเลนส์ที่มีค่า Refractive index สูงว่า เลนส์ย่อบาง เลนส์ย่อบางเหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตามากๆ เพื่อให้เวลาที่นำเลนส์เข้ากรอบแล้วตัวเลนส์ไม่ล้นออกนอกกรอบแว่นตา และช่วยทำให้ตัวแว่นนั้นมีน้ำหนักไม่หนักจนเกินไป
- การเลือกกรอบแว่นตาก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเลือก Index ของเลนส์เช่นกันโดยเฉพาะผู้ที่ใช้กรอบแว่นตาชนิดไร้กรอบ หรือ กรอบเซาะร่อง อาจจะต้องพิจารณาใช้วัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปเนื่องจากตัวเลนส์จะมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าวัสดุเลนส์ Index 1.50 การเลือกวัสดุเลนส์ Index 1.60 ขึ้นไปจะลดความเสี่ยงในการเกิดการกระเทาะแตกของเลนส์ได้